ตำนานเจ้าหญิงคางุยะ มนุษย์ต่างดาวแห่งดวงจันทร์

ตำนานเจ้าหญิงคางุยะ

หนึ่งในตำนานการ์ตูนญี่ปุ่นแต่โบราณที่กล่าวถึงมนุษย์ต่างดาวจากดวงจันทร์ นั่นก็คือตำนานที่ชื่อว่าตำนานคนตัดไผ่ หรือตำนานที่เด็กรุ่นใหม่รวมทั้งคนไทย และชาวต่างชาติทั่วโลกมักจะเคยได้ยินในชื่อ ตำนานเจ้าหญิงคางุยะ จากดวงจันทร์ ซึ่งมีการเล่าสืบต่อกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 และถูกยกย่องให้เป็นวรรณกรรมโบราณของประเทศญี่ปุ่น ที่เก่าแก่ที่สุดอีกตำนาน โดยตำนานเจ้าหญิงแห่งดวงจันทร์นี้

เนื้อเรื่องของ ตำนานเจ้าหญิงคางุยะ จะเริ่มต้นโดยที่ชายชราผู้หนึ่งซึ่งมีอาชีพตัดต้นไผ่ในขณะที่เขากำลังตัดต้นไผ่อยู่ก็ดันไปเห็นต้นไผ่ต้นหนึ่งที่อยู่ๆ ก็มีแสงเรืองรองส่งออกมาเหมือนแสงจากดวงจันทร์ เป็นธรรมดาที่ความสงสัยใคร่รู้ทำให้เขาเดินไปตัดป้องไม้ไผ่ลำนั้น ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าในปล้องไม้ไผ่มีเด็กทารกผู้หญิงตัวเล็กขนาดเท่าหัวแม่มือนอนอยู่

ตำนานเจ้าหญิงคางุยะ

ใช่แล้วครับท่านอ่านไม่ผิดหรอก ก่อนที่ชายคนตัดไผ่จะนำเธอมาเลี้ยงดูเป็นลูกสาวซึ่งเติมเธอก็ค่อยๆ โตขึ้นๆ จะมีขนาดเท่ามนุษย์ปกติทั่วไป หากแต่ที่แตกต่างกันก็คือ เธอมีความสวยงามเป็นอย่างมากซึ่งเธอมีชื่อว่าคางูยะ หรือก็คือองค์หญิงจากดวงจันทร์ตามเนื้อเรื่องนั้นเอง ในขณะที่ชายชรานำเด็กสาวคนนี้มาเลี้ยงก็เกิดโชคมหาศาลแบบพิสดาร โดยทุกครั้งที่เข้าไปตัดไผ่ก็จะเจอทองถูกซ่อนไว้ในต้องไม้ไผ่อยู่เรื่อยๆ (ต้นไผ่ที่ว่านี้มันเป็นพันธุ์อะไรใครรู้ช่วยบอกด้วยคนเขียนจะไปซื้อมาปลูกทองตอนนี้ขึ้นหลักบาทละ 30,000 บาทแล้ว)

และด้วยความสวยขององค์จริงจากดวงจันทร์นี้ ทำให้มีเจ้าชายจากเมืองต่างๆหมายปองมาแย่งชิงเธอไปเป็นชายาของตนเอง ทำให้เธอและพ่อบุญธรรมได้วางแผนตั้งข้อทดสอบความสามารถของเราองค์ชายแบบเวอร์วังอลังการ ชนิดที่คนปกติไม่สามารถจะทำได้ จนกระทั่งองค์หญิงจากดวงจันทร์ไปถูกตาต้องใจของจักรพรรดิแห่งประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้นชื่อองค์จักรพรรดิมิกะโดะ

ตำนานเจ้าหญิงคางุยะ

ซึ่งแม้ว่าหญิงสาวจะปฏิเสธการไปเป็นพระมเหสีคู่องค์จักรพรรดิแต่ก็ยังคงสานสัมพันธ์เอาไว้อยู่ ในเวลาต่อมาคางูยะองค์หญิงจากดวงจันทร์จึงได้ทำการสารภาพกับคนในครอบครัวว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ใช่มนุษย์บนโลกแต่เป็นผู้ที่มาจากดวงจันทร์เพื่อหนีภัยสงครามหรือไม่ก็ถูกลงโทษอะไรสักอย่างให้มาใช้ชีวิตกับมนุษย์ธรรมดาเป็นเวลาชั่วคราว เมื่อถึงเวลานั้นคืนก็ต้องกลับไปดวงจันทร์ เมื่อถึงเวลากำหนดองค์จักรพรรดิพยายามใช้กำลังทหารเข้าล้อมป้องกันไม่ให้เจ้าหญิงจากดวงจันทร์ถูกนำตัวไป

อย่างไรก็ตาม ก็มีประตูแสงจากสรวงสวรรค์ซึ่งผู้เขียนคาดว่าน่าจะหมายถึงยานพาหนะหรือยานอวกาศสักอย่างเปล่งแสงบินลงมารับเธอ แน่นอนว่าทหารที่เฝ้าบ้านอยู่ จะเอาอะไรไปสู้กับยานจากต่างดาว ซึ่งองค์หญิงคางุยะก็ได้กล่าวร่ำลาบิดา-มารดาบุญธรรม พร้อมฝากจดหมายไปถึงองค์จักรพรรดิ แถมยังแนบยาอายุวัฒนะที่ใครก็ตามที่รับประทานเข้าไปจะเป็นอมตะให้เขาเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายเองด้วย จากนั้นเธอก็ขึ้นยานบินหนีหายกลับไปยังดวงจันทร์ ส่วนองค์จักรพรรดิเมื่อทราบข่าวก็เศร้าเสียใจได้ขึ้นไปบนเขาที่สูงที่สุดของประเทศญี่ปุ่นที่เชื่อกันว่าใกล้สวนสวรรค์มากที่สุด ซึ่งเชื่อกันว่าคือภูเขาไฟฟูจิในปัจจุบัน ทำการเผาจดหมายรวมทั้งยา