
เมื่อคนพูดถึงการ์ตูนในวัยเด็กที่ดูง่ายและส่งเสริมเรื่องอาหารแล้ว แฟนการ์ตูนคงต้องคิดถึงการ์ตูนอย่าง ป๊อปอาย กะลาสีเรือนั่นเอง โดนจุดเด่นของเรื่องคงหนีไม่พ้นพระเอกที่มักจะต้องคอยปกป้องนางเอกอย่างโอลีฟเสมอ
เนื่องจากคู่แข่งหัวใจอย่างบลูโตมักจะมาตามตื้อและวางแผนทำร้าย ป๊อปอาย ในแต่ละตอนเพื่อชิงโอลีฟกลับมา จนสุดท้ายเขามักจะกินผักโขมเพื่อเพิ่มพลังให้ตัวเองจนสุดท้ายจะเอาชนะบลูโตกลับไป แต่ทว่าสำหรับนักวิจัยแล้วสารอาหารในผักโขมอาจไม่ได้มีอยู่มากดังในการ์ตูน

สำหรับการ์ตูนเรื่องป๊อปอายถือว่าอยู่คู่กับเด็กมาตั้งแต่ปี 1919 ผ่านหนังสือพิมพ์ ก่อนที่จะถูกดัดแปลงและฉายผ่านแผ่นฟิล์มในปี 1933 จนกลายมาเป็นการ์ตูนยอดฮิตของเด็กในทุกยุคสมัย จากความนิยมของป๊อปอายนี่เองทำให้กระแสของการกินผักโขมจึงพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากเด็กทุกคนต่างหวังว่าการกินผักสีเขียวชนิดนี้จะช่วยเพิ่มพละกำลังในการใช้ชีวิตโดยทั้งผู้ปกครองก็เห็นดีเห็นงามด้วยนั่นเอง
แม้ว่าความนิยมของการกินผักโขมในเด็กจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อพวกเขาได้ชมป๊อปอายก็ตาม แต่สำหรับนักวิจัยไม่ได้คิดว่านี่คือเรื่องดีมากขนาดนั้น เพราะจากการตรวจสอบสารอาหารโดยเฉพาะธาตุเหล็กที่ผู้คนมักอ้างถึงในผักโขม ได้ผลออกมาว่าเจ้าผักชนิดนี้มีแค่ 3.5 มิลลิกรัมต่อผักโขม 100 กรัม ซึ่งถือว่ามีน้อยมาก และคงไม่ได้ช่วยให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นเหมือนอย่างในการ์ตูนได้เลย
สำหรับการ์ตูนเรื่อง ป๊อปอาย ถือว่าอยู่คู่กับเด็กมาตั้งแต่ปี 1919

ถึงสารอาหารของผักโขมจะน้อยเกินกว่าที่แฟนๆ การ์ตูนเข้าใจกันก็ตาม ทว่าการทานผักสีเขียวก็ยังคงมีประโยชน์อื่นๆ อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียมหรือวิตามินต่างๆ ฉะนั้นการจะทำตามตัวอย่างของป๊อปอายก็คงไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ควรทานอาหารให้ครบทุกหมู่ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพก็เพียงพอแล้ว