“วันพีช” ทำไมจึงเดินเรื่องมาได้ยาวนานเกินกว่าที่ผู้เขียนได้คาดการณ์ไว้

“วันพีช”

    หากพูดถึงการ์ตูนอนิเมะที่ดำเนินเรื่องมานานแสนนาน การ์ตูนเรื่อง “วันพีช” คงเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ดำเนินเรื่องมานานแสนนานมาก แถมกระแสตอนนี้นั้น เรียกได้ว่าแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว เพราะการ์ตูนเรื่อง “วันพีช” นั้น มีเอกลักษณ์หลายๆอย่างที่เด่นชัดและสวยงาม ทั้งลายเส้นของการวาดการ์ตูนแบบญี่ปุ่นที่ชัดเจน

เนื้อเรื่องของโจรสลัดที่ไม่ไกลตัว  ผู้คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ง่าย  มิตรภาพของครอบครับตัวละครและผองเพื่อนที่ลึกซึ้งกินใจเป็นอย่างมาก ทั้ง ไขปริศนา ผจญภัย หาสมบัติ ครบรสเลยทีเดียว และต้องยอมรับผู้เขียนอย่าง เออิจิโร โอดะ (Eiichiro Oda ) จริงๆครับที่วางโครงเรื่องออกมาได้ดีขนาดนี้ 

“วันพีช”

   และวันนี้ผมจะมาวิเคราะห์ดูว่า เพราะเหตุใจวันพีชจึงเดินเรื่องมาได้ยาวนานเกินกว่าที่ผู้เขียนได้คาดการณ์ไว้ เหตุผลข้อแรกเลย ผู้เขียนอย่าง เออิจิโร โอดะ ( Eiichiro Oda ) นั้นชื่นชอบ การ์ตูน ดราก้อนบอล เอามากๆ

และนี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ เขาสามารถเขียนการ์ตูนที่มีเนื้อเรื่องยาวๆแบบนี้ได้ เพราะ การ์ตูน ดราก้อนบอล นั้นมีเนื้อเรื่องหาที่ยาวมากพอๆกับวันพีชเลยแหละครับ โดย เออิจิโร โอดะ ( Eiichiro Oda ) นั้นได้เริ่มเขียนการ์ตูนวันพีชขึ้นมาในปี 1977 โดย เออิจิโร โอดะ ( Eiichiro Oda )นั้น

“วันพีช” การ์ตูนญี่ปุ่นที่มีเนื้อเรื่องที่แสนยาวนาน

“วันพีช”

เขาตั้งใจจะเขียนให้เสร็จภายใน ปี2002 หรือระยะเวลาภายใน 5 ปี แต่เวลานี้ก็ร่วงเลยมาจนถึง ปี 2020 แล้ว การ์ตูนวันพีชนั้น ก็ดำเนินเรื่องมาถึง 80-90 % เท่านั้นเอง เรียกได้ว่า นานกว่าที่คาดการณ์ไว้มากพอสมควรเลยทีเดียว

เหตุผลนั้นเพราะผู้คนให้ความสนใจกับความเป็นมา รายละเอียดต่างๆของตัวละครแต่ละตัว นั่นจึงทำให้   เออิจิโร โอดะ ( Eiichiro Oda ) นั้นก็ใส่รายละเอียดต่างๆของตัวละครลงไปด้วย จึงทำให้ การ์ตูนวันพีชนั้น มีเนื้อเรื่องที่ละเอียดอ่อน และลึกซึ้งกินใจผู้รับชมเป็นอย่างมาก จนถึงขณะนี้

“วันพีช”

   เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ทีนี้ใครที่ยังสงสัยว่าทำไม การ์ตูนวันพีชนั้นถึงมีเนื้อเรื่องที่ยาวนาน และน่าติดตามไม่มีเบื่อเลย จนถึงขณะนี้ ใครที่ดูอยู่ก็คงแอบใจหายไม่น้อยที่ การ์ตูนเรื่องนี้เดินทางมาจนถึงท้ายๆแล้ว หลายคนยังคงคาดหวัง กับตอนจบที่สวยงาม และหลายคนก็ยังคงไม่อยากให้เดินทางมาถึงจุดจบของลูฟี่และผองเพื่อนเหล่าโจรสลัด แล้วเพื่อนๆละครับคิดเห็นยังไงกันบ้าง กับบทความนี้