อัลลาดิน กับตะเกียงวิเศษ ซึ่งบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเป็นการเลียนแบบนิยายชื่อดังนั่นเอง

อัลลาดิน

แม้ว่าการล้อเลียนการ์ตูนของแต่ละเรื่องมักจะเกิดขึ้นเป็นประจำก็ตาม แต่ทว่าในปี 1939 นั้นทางป็อปอายก็ได้มีตอนที่ชื่อว่า อัลลาดิน กับตะเกียงวิเศษ ซึ่งบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเป็นการเลียนแบบนิยายชื่อดังนั่นเอง โดยมีเรื่องราวที่ใกล้เคียงกันอย่างมากเพราะทางพระเอกต้องไปตามหาตะเกียงวิเศษให้ได้ แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยมากขึ้นและไม่มีตัวโกงขาประจำอย่างบลูโตก็ตาม

อัลลาดิน

               จุดเริ่มต้นของตอนนี้นั้นก็เกิดจากโอลีฟ ออยที่กำลังทำงานเป็นนักเขียนนิยายในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง พร้อมกับเขียนเรื่องราวดัดแปลงให้ทางป็อปอายรับบทบาทเป็น อัลลาดิน ส่วนตัวเธอก็รับบทเป็นเจ้าหญิงในเมือง จนมีภาพของพระเอกที่ทำงานเป็นช่างตีเหล็กแลพมีทางขุนนางผู้ชั่วร้ายคนหนึ่งแอบมองเจ้าหญิงและต้องการจะเป็นผู้มีอำนาจและจับโอลีฟมาเป็นภรรยาของตัวเองอีกด้วย

               ซึ่งการที่ขุนนางนี้จะครอบครองเมื่อได้นั้นจะต้องไปตามหาตะเกียงวิเศษเสียก่อน จนต้องไปตามหาป็อปอายอัลลาดินเพื่อไปเอาตะเกียงนั้นให้ได้  เมื่อทางพระเอกและขุนนางไปถึงถ้ำแห่งหนึ่งแล้วนั้นก็ได้พบกับทางเดินด้านล่างที่เต็มไปด้วยขุมทรัพย์มากมาย ก่อนจะต้องพังกำแพงด้านในเพื่อไปหยิบเอาตะเกียงวิเศษมา แม้ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะมอบตะเกียงก่อนจะถูกผักหลังและทิ้งไว้ในถ้ำลำพัง แต่ทว่าตะเกียงกลับตกลงไปกับพระเอกเสียอย่างนั้น

อัลลาดิน ส่วนตัวเธอก็รับบทเป็นเจ้าหญิงในเมือง

อัลลาดิน

               สิ่งที่ป็อปอายกับเรื่องตะเกียงวิเศษนี้ มีไม่เหมือนกันก็คือในตะเกียงวิเศษนั้นกลับมายักษ์จินนี่ที่สามารถเสกบันไดเลื่อนได้ อีกทั้งยังโดนเล่นงานจากขุนนางได้ด้วย อีกทั้งตอนจบที่ทางพระแอกยังสามารถเสกได้จากกระป๋องผักโมที่ติดตัวอยู่เสมออกเช่นกัน แม้ว่าความสมัยใหม่จะเพิ่มเข้ามาในเรื่องของโอลีฟก็ตาม แต่สุดท้ายกลับเป็นทางสำนักพิมพ์ที่เลือกจะตีกลับต้นฉบับพร้อมใส่เธอไปอย่างไม่คาดคิดอีกด้วย