บักส์บันนี่

อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักสำหรับการ์ตูนที่มีบักส์บันนี่ร่วมแสดงอยู่ แต่เขากลับกลายเป็นผู้แพ้พ่ายในระหว่างเรื่อง อย่างในตอนที่ชื่อฟอลลิ่งแฮร์นั้น ก็เป็นทางกระต่ายตัวแสบที่บังเอิญไปอยู่ในฐานทัพของทหารอากาศที่เต็มไปตัวเครื่องบินมากมาย จนกระทั่งเขาไปเจอกับตัว เกรมลิน ที่กำลังมาก่อกวนและจับเขาขึ้นไปบนอากาศจนทางกระต่ายแทบจะเอาชีวิตไม่รอดจากคูปรับตัวจิ๋วนี้                ในตอนที่ชื่อว่าฟอลลิ่งแฮร์นั้นก็เริ่มต้นจากทางบักส์บันนี่ที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ใต้เครื่องบินลำหนึ่งเกี่ยวกับการก่อกวนของ เกรมลิน จนทำให้ตัวเครื่องยนต์ขัดข้องและไม่สามารถบินออกไปยังน่านฟ้าได้ ซึ่งทางบักส์ไม่เชื่อพร้อมกับหัวเราะเยาะ จนกระทั่งได้เจอคู่ปรับกับตัวเอง โดยทางปีศาจตัวจิ๋วนี้ก็ทำการตอกลูกระเบิดที่อยู่ใกล้ๆ กับตัวเครื่องจนทางกระต่ายเกือบหลงกลและทำการระเบิดเสียเอง เกรมลิน จนทำให้ตัวเครื่องยนต์ขัดข้องและไม่สามารถบินได้                เมื่อบักส์บันนี่รู้ตัวแล้วนั้น ทางเกรมลินก็ได้หลอกเขาจนเข้าไปยังตัวเครื่องบินพร้อมกับทำการขึ้นเครื่องทันที หลังจากที่ทั้งสองอยู่กลางอากาศแล้วนั้น บักส์ก็ถูกหลอกจนเกือบจะตกออกไปข้างนอกเครื่องแม้ว่าเขาจะกลับตัวได้ทันก็ตาม ก่อนที่เจ้ากระต่ายจะโดนแกล้งซ้ำด้วยการเปิดทางออกของระเบิดจนตัวห้อยอยู่ใต้เครื่อง พร้อมกับต้องรีบมาทำการบังคับเครื่องบินเองเพื่อไม่ให้ตกลงไปอีกด้วย                […]

เป็นอีกตอนที่แหวกแนวพอสมควรสำหรับการต่อสู้ของบักส์บันนี่กับโยเซไมตี้แซมคู่ปรับผู้โหดเหี้ยมในตอนที่ชื่อว่าพรินซ์วามินท์ ซึ่งเหตุการณ์จะเกี่ยวข้องกับแซมที่รับบทเป็นชาว ไวกิ้ง ที่ต้องการจะบุกเข้าไปยังปราสาทใกล้ลำธาร แต่บังเอิญเจอกับเจ้ากระต่ายตัวแสบเสียก่อน จนทำให้เขาจะต้องปะทะฝีมือกับบักส์เสียก่อนและทางเจ้ากระต่ายนี้เองที่จะต้องปกป้องปราสาทนี้เสียเองโดยไม่ตั้งใจ                ช่วงตอนต้นของเรื่องพรินซ์วามินท์นั้น ก็เป็นทางโยเซไมตี้แซมหรือใช้ชื่อในตอนว่าแซมเดอะเทอร์เรอร์ที่กำลังล่องเรือมาบุกปราสาทจนทำให้ผู้คนแถวนั้นเกิดกลัวจนหนีเข้าปราสาทไป ส่วนทางบักส์บันนี่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็เดินเข้าไปหาแซมเพราะเข้าใจว่าเป็นเด็กแล้วแย่งดาบออกจากมือไปแล้วเอาดาบไปตอกจนทู่แล้วพาเขาเดินออกไปจากปราสาท ซึ่งทำให้แซมโมโหมากเลยทีเดียว ไวกิ้ง ก็เลือกที่จะวิ่งพุ่งชนประตูแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย                เมื่อทางแซมเดอะเทอร์เรอร์ได้สั่งให้บักส์บันนี่เปิดประตูนั้น ทาง ไวกิ้ง ก็เลือกที่จะวิ่งพุ่งชนประตูแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย จนกระทั่งไปจับช้างมาขี่เพื่อพังประตู แต่ทางบักส์ก็ได้เอาอิฐปูนมาก่อไว้จนช้างก็ได้แต่เจ็บตัวไปแทนและยังพลาดเล่นงานแซมที่เอาแต่บ่นอีกด้วย   หลังจากนั้นทางแซมก็เลือกที่จะให้ช้างปาหินใส่เข้าไปในปราสาท แต่ทางกระต่ายแสนรู้ก็เอาพริกไทยโรยใส่ช้างจนจามหินไปอัดแซมแทน                หลังจากที่บักส์บันนี่ได้หลอกทางแซมเดอะเทอร์เรอร์ด้วยการแกล้งเปิดประตูจนทั้งคนและช้างเจ็บตัวนั้น ทางไวกิ้งก็เลือกที่จะล่องไปตามน้ำแทนแต่ก็ไม่สำเร็จ […]

ย้อนไปในปี 1942 นั้นก็มีการ์ตูนอีกตอนหนึ่งที่น่าจดจำสำหรับทางบักส์บันนี่ โดยตอนที่ชื่อว่า แวกกี้แวบบิท นั้นถือว่าเป็นอีกครั้งที่ทางเอลเมอร์ ฟัดด์จะได้มาเจอกับคู่ปรับตัวแสบอีกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์จะเกี่ยวข้องกับการค้นหาทองที่นิยมกันอยู่ช่วงหนึ่งของประเทศในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ก่อนที่ทุกอย่างไปจบลงด้วยการทำอย่างไรก็ได้ให้ทางเอลเมอร์นี้ต้องมีทองกลับไปให้ได้                จุดเริ่มต้นของเรื่องราว แวกกี้แวบบิท ก็มาจากทางเอลเมอร์ ฟัดด์ที่กำลังเดินร้องเพลงโอ้ซูซานน่าอย่างสบายใจและออกมาค้นหาทองท่ามกลางทะเลทราย จนกระทั่งมาเจอกับบักส์บันนี่กระต่ายตัวแสบที่เดินมาร้องเพลงด้วยกันก่อนที่จะรีบหนีไปเมื่อโดนจับได้ จนกระทั่งทางเอลเมอร์ได้เดินทางไปขุดหาทองต่อไปแต่ดันเลือกที่จะไประเบิดหลุมที่มีทางกระต่ายตัวนี้อยู่ จนทำให้ทั้งสองต้องแย่งกันปาระเบิดออกไปจากที่ตัวเอง                เมื่อสุดท้ายทางบักส์บันนี่จะหลอกให้ทางเอลเมอร์ ฟัดด์ตกใจเล่นจากการเอาระเบิดปลอมมาหลอกจนเสียหน้าไปแถมยังเอาหม้อมาตีใส่หัวซ้ำไปอีก จนกระทั่งมาหลอกเขาซ้ำอีกครั้งด้วยการบอกว่าเจอทองแล้ว ซึ่งเป็นฟันทองของกระต่ายนั่นเองและทางเอลเมอร์ก็ไม่ได้สนใจเพราะตัวเองก็มีเช่นเดียวกัน ก่อนที่ต่อมาเอลเมอร์จะพยายามเอาคืนด้วยการหลอกให้บักส์ขึ้นมาพร้อมจะเอาจอบมาตีใส่แต่อุปกรณ์ดันไปติดหินด้านหลังเสียแทน จุดเริ่มต้นของเรื่องราว แวกกี้แวบบิท […]

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ในการ์ตูนเรื่องบักส์บันนี่ที่งานเข้าก็ว่าได้ สำหรับตอนที่ชื่อว่าบูลลี่ฟอร์บักส์ที่ทางพระเอกได้หลงทางจากเดิมที่จะไปเที่ยว จนกระทั่งไปเจอกับ มาธาดอร์ และต้องสวมบทบาทนั้นแทน พร้อมต้องสู้กับวัวกระทิงเจ้าถิ่นที่ไม่ยอมลดราง่ายๆ ซึ่งทางกระต่ายตัวแสบจะต้องหาทางเอาชนะไปพร้อมกับฉากจบที่นักวิจารณ์หลายคนมองว่าสร้างสรรค์ที่สุดเท่าที่เคยชมมาด้วยเช่นกัน                เหตุการณ์ในเรื่องบูลลี่ฟอร์บักส์นั้นได้เริ่มต้นขึ้นที่ประเทศสเปน ซึ่งมีทาง มาธาดอร์ กำลังจะต้องประจันหน้ากับวัวกระทิงที่ชื่อว่าโตโร่ ก่อนที่ต่อมาทางบักส์บันนี่จะขุดดินเข้ามายังสนามโดยไม่ตั้งใจเนื่องจากเขาลืมที่จะเลี้ยวซ้ายขณะที่อยู่ในเมืองอัลบูกีกี  จนกระทั่งเขารีบวิ่งไปถามกับชายที่อยู่สนามแต่ทว่ากลับไม่มีคำตอบจากคนหนีตายที่ปล่อยให้เขาอยู่กับโตโร่เพียงลำพังจนโดนขวิดจนลอยข้ามสนามไป                เมื่อทางบักส์บันนี่ได้ตัดสินใจว่า การโดนเล่นงานครั้งจะทำให้เขาคิดสร้างสงครามกับโตโร่อย่างเป็นทางการ เจ้าตัวจึงกลับมาอีกครั้งในฐานะมาธาดอร์ก่อนที่หลอกให้วัววิ่งไปชนทั่งเหล็กจนได้รับเสียงเชียร์จากคนดู อีกทั้งยังหลอกให้วัวเต้นทางต่างๆ และวิ่งไปขวิดกับไม้ไปเสียเอง แม้ว่าการตอกเขาของวัวกับไม้และการใช้หนังยางและเอาหินดีดใส่จะทำให้บักส์เอาชนะไม่ได้ก็ตาม มาธาดอร์ กำลังจะต้องประจันหน้ากับวัวกระทิงที่ชื่อว่าโตโร่                ในตอนสุดท้ายนั้น […]

อาจเป็นภาพจำไปแล้วสำหรับการต่อสู้ระหว่าง เอลเมอร์ ฟัดด์ กับบักส์บันนี่ หลังจากที่ทางนักล่าสัตว์ประจำเมอร์รี่ เมโลดี้ได้ปรากฏตัวตั้งแต่ครั้งแรกที่กระต่ายตัวแสบนี้เปิดตัวบนจอโทรทัศน์ให้ผู้ชมได้เห็นกัน จนกระทั่งในตอนที่ชื่อว่าโอลด์เกรย์แฮร์นั้นก็เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน โดยจะมีเรื่องราวต่อไปจนถึงอนาคตที่ร่างกายของทั้งคู่อยู่ในวัยชรา แต่ยังไม่วายพยายามดีกันตามเคย                เรื่องราวของการ์ตูนตอนนี้ก็มาจากทาง เอลเมอร์ ฟัดด์ ที่ร้องไห้เสียใจที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการจับกระต่ายตัวประจำเลย จนกระทั่งมีเสียงจากท้องฟ้าดังออกมาและบอกให้เขาพยายามต่อไป อีกทั้งยังถามคนบนฟ้าว่าอีกนานแค่ไหนจนกว่าเขาจะไปตามจับคู่ต่อกรตัวแสบได้ จนกระทั่งทางนักล่าหัวไข่คนนี้จะเดินทางข้ามเวลาไปยังปี 2018 หรือ 70 ปีหลังจากวันที่เรื่องนี้ออกฉายครั้งแรกนั่นเอง                เมื่อทางเอลเมอร์ได้มาอยู่ในอนาคตแล้วนั้น เขาก็ได้พบกับสิ่งประดิษฐ์ที่น่าทึ่งไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ที่ใช้กลิ่นในการรับภาพหรือจะเป็นปืนลูกซองแบบใหม่ที่ใช้เพื่อจับกระต่ายโดยเฉพาะ จนกระทั่งเขาได้พบกับบักส์บันนี่ที่แก่แล้วอีกครั้งหนึ่ง […]

นับเป็นการ์ตูนที่หายากเลยทีเดียว สำหรับบักส์บันนี่ในเรื่องเอทท์บอลบันนี่ที่เขาต้องมาเจอกับเจ้า นกเพนกวิน อย่างเพลย์บอย ที่บังเอิญต้องมาเจอกันขณะที่เจ้ากระต่ายต้องการพักผ่อน ก่อนที่เจ้านกเพนกวินที่น่าสงสารจะถูกบักส์พากลับบ้านที่เซาท์โพล ที่แม้แต่เจ้ากระต่ายก็ไม่ต้องการไปเหยียบเพราะความหนาวเย็นของทวีปใต้โลกนั่นเอง  แต่สุดท้ายการผจญภัยของสัตว์ทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้น                ทันทีที่เพื่อนตัวน้อยของบักส์บันนี่โดนเพื่อนร่วมคณะการแสดงไอซ์ ฟรอลิคทิ้งไปขณะที่เพิ่งจบการทัวร์ที่บรูคลิน นกเพนกวิน ที่ชื่อเพลย์บอยก็เดินไปตกหลุมของเจ้ากระต่ายนี้ทันที จนทำให้เขาเกิดสงสารและรีบพานกน้อยกลับบ้านให้ได้ แต่ทว่าบ้านเกิดของเพลย์บอยดันอยู่ที่เซาท์โพลที่ไกลออกไปจนทำให้ทั้งสองต้องเดินทางด้วยรถไฟ อีกทั้งต้องปกป้องจากชายผู้หิวโหยและจะจับนกตัวนี้กินให้ได้                หลังจากที่บักส์บันนี่สามารถใช้ไหวพริบเอาชนะชายที่หิวโหยไปได้ หลังจากนั้นเขาก็ต้องพาเพลย์บอยฝ่าป่าดงก่อนจะถูกจับโดยชนพื้นเมือง ทว่ายังโชคดีที่มีฮัมฟรี โบการ์ดเดินเข้ามาช่วยในป่าพอดีและเจ้ากระต่ายได้ให้เศษเงินไปหลังจากที่โบการ์ดได้มาขอเอาไว้ จนกระทั่งสุดท้ายพวกเขาทั้งสองจะมาถึงบ้านเกิดของนกน้อยตัวนี้ ก่อนที่เพลย์บอยจะเอาใบประกาศมาให้ดูว่าจริงๆ แล้วเขายังมีทัวร์ต่อไปจนทำให้บักส์หมดความอดทนและรีบหนีไปในที่สุด นกเพนกวิน […]

ในปี 1941 นั้นคือช่วงที่ เอลเมอร์ ฟัดด์ได้กลายเป็นคนอ้วนเปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งในเรื่องแวบบิท ทวอบเบิลนั้นบทบาทของเขาก็ได้เปลี่ยนไปด้วย โดยในเรื่องนั้นเขากลายเป็นนักท่องเที่ยวที่โดนบักส์บันนี่คุมคามแทน จนทำให้เขากลายเป็นคนที่น่าสงสารในเรื่องและไม่ได้พักผ่อนอย่างที่ตั้งใจไว้ตอนต้น ซึ่งการ์ตูนตอนนี้ก็ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับฟัดด์ให้แก่ค่ายหลายเรื่องเลยทีเดียว                สำหรับเรื่องราวของแวบบิททวอบเบิลนั้น ทาง เอลเมอร์ ฟัดด์ได้ตัดสินใจไปพักผ่อนที่สวนเจลโลวสโตน โดยเขาดันไปตั้งเต๊นท์ที่หน้าหลุมของบักส์บันนี่พอดี จนทำให้โดนดูดเต็นท์เข้าไป หลังจากนั้นไม่นานทางฟัดด์ก็ได้ไปนอนจนกระทั่งโดนเจ้ากระต่ายตัวแสบมาทาสีแว่นจนเข้าใจผิดว่าเป็นกลางคืน ก่อนที่ต่อมาทางบักส์จะแกล้งเป็นไก่อีกครั้งและปลุกให้เขาตื่นภายในเวลาสั้นๆ                หลังจากที่ตื่นนอนได้ไม่นาน ทางเอลเมอร์ก็เดินไปล้างหน้าและพยายามเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแต่ยังคงโดนบักส์บันนี่หลอกจนเดินตกหน้าผากไป จนทำให้เขาทนไม่ไหวแล้วหยิบปืนมาไล่ยิงกระต่ายทันที แต่ทว่าเจ้าตัวกลับเดินไปเจอหมีป่าแทนและเลือกที่จะแกล้งตายตามที่หนังสือกล่าวไว้ จนสุดท้ายทางฟัดด์จะทนไม่ไหวและพังป้ายของสวนจนทางเจ้าหน้าที่ต้องมาจับเจ้าตัวในที่สุด […]

ในช่วงเวลาที่การ์ตูนบักส์บันนี่เริ่มไม่มีศัตรูตัวเก่งมาต่อกรกับเขาแล้ว หลังจากที่เนื้อเรื่องที่เจ้ากระต่ายสามารถเอาชนะได้ทั้งเอลเมอร์ ฟัดด์และคู่ต่อสู้คนอื่นๆ จนทางฟริซ เฟรเลงเริ่มได้ไอเดียของผู้มีอิทธิพลที่เคยครองเมืองสหรัฐอเมริกามาอย่างยาวนาน จนได้กำเนิดตัวละครอย่าง ร็อคกี้ ขึ้นมา โดยเขาเป็นมาเฟียที่เหี้ยมโหดและมีลูกน้องตัวใหญ่ใสซื้ออย่างมักซี่ ก่อนที่ทั้งสองตัวละครจะมีโอกาสเจอกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการในเรื่องบักส์แอนด์ธักส์                เรื่องราวของบักส์แอนด์ธักส์นั้นเกิดขึ้นจากบักส์บันนี่ดันไปเข้าใจผิดว่ารถของโจรทั้งสองเป็นรถแท็กซี่ ก่อนที่จะตกกระไดพลอยโจนต้องเดินทางไปพร้อมกับมาเฟียทั้งสอง ที่แม้ว่าเจ้ากระต่ายจะพยายามแจ้งตำรวจหลายครั้งแล้วก็ตาม แต่สุดท้ายเขาก็ต้องติดรถไปที่ซ่อนตัวของ ร็อคกี้ กับมักซี่เข้าจนได้ ก่อนที่เขาจะพยายามหลอกล่อให้โจรทั้งสองซ่อนตัวจากตำรวจและสร้างสถานการณ์ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วอีกด้วย                แม้ว่าบักส์บันนี่อาจดูเหมือนจะทำทีเป็นร่วมมือกับโจรทั้งสอง แต่เขากลับเอาคืนที่เคยโดนให้แบกรถแทนล้อหน้าที่พัง ด้วยการเปิดแก๊สแล้วจุดไฟเข้าไปในเตาจนระเบิด ซึ่งสุดท้ายทางตำราจจะตามที่ซ่อนตัวของมาเฟียทั้งสองเจอ แต่ทางบักส์ได้จำลองเหตุการณ์จุดเตาแก๊สอีกครั้ง ทว่าโจรกลับกลัวจะซ้ำรอยและวิ่งออกไปมอบตัวกับตำรวจทันที […]

แม้ว่าบักส์บันนี่จะเป็นการ์ตูนที่สร้างความตลกขบขันให้กับผู้คนมาตลอดหลายปี แต่ทว่าครั้งหนึ่งเจ้ากระต่ายสีเทาจะทำเรื่องเอาไว้เสียจนถูกเซนเซอร์ตอนจบไปมากถึงสองครั้ง เนื่องจากความรุนแรงที่พระเอกตัวแสบได้ทำเอาไว้และเกินขอบเขตไปอย่างมาก ซึ่งในเรื่องที่ว่าก็คือตอน แฮร์ริบบิน นั่นเอง โดยมีบักส์เป็นตัวละครเอกคู่กับสุนัขชาวรัสเซียที่มาไล่จับเขาจนสุดท้ายจะกลายเป็นคนที่เดือดร้อนเสียเอง                เรื่องราวของ แฮร์ริบบิน เกิดจากสุนัขที่มีสำเนียงชาวรัสเซียออกมาตามจับบักส์บันนี่จนกระทั่งตามลงไปไล่ล่ากันถึงใต้น้ำเลยทีเดียว ซึ่งสุดท้ายจะเป็นทางเจ้ากระต่ายที่ปลอมตัวไปอยู่ในขนมปังแซนวิชและยอมให้สุนัขตัวนี้กิน ก่อนที่จะหลอกว่าตัวเองเสียชีวิตจนทำให้เจ้าสุนัขรู้สึกผิดอย่างมากและอยากให้จะแลกชีวิตของเขาเอง โดนเป็นทางบักส์ที่ลุกขึ้นมาพร้อมเอายิงจ่อปากสุนัขจนนอนนิ่งไปเสียเองในตอนจบ                ถึงแม้ว่าเจ้าสุนัขจะลุกขึ้นมาได้ในตอนจบก็ตาม แต่ฉากนี้ได้ถูกเซ็นเซอร์ไปและมีการปรับเปลี่ยนตอนจบอีกครั้ง โดยการเปลี่ยนให้ทางบักส์บันนี่ยื่นปืนให้สุนัขยิงตัวเองแทน ทว่าในปัจจุบันฉากการใช้ปืนสำหรับรายการเพื่อครอบครัวก็คงไม่ใช่ที่เหมาะสมนัก จนกระทั่งสุดท้ายฉากจบของเรื่องจะเป็นเพียงเจ้ากระต่ายที่ลุกขึ้นมาพร้อมกับตัดภาพเป็นสุนัขนอนล้มไปแทนเพื่อให้ไม่มีความรุนแรงได้แสดงต่อหน้าผู้ชมนั่นเอง แฮร์ริบบิน เกิดจากสุนัขที่มีสำเนียงชาวรัสเซีย                นับว่าเป็นเรื่องปกติของการ์ตูนในยุคทองก็ว่าได้ที่มักจะมีฉากรุนแรงออกมาเกินเหตุเสมอ ซึ่งบักส์บันนี่ก็หนีไม่พ้นคำครหาเหล่านี้เช่นกัน […]