Search Results for สงคราม

       ไอเซ็น โซสึเกะ เป็นหนึ่งในยมทูต ในโซโซลไซตี้ ในกาตูนเรื่อง บลีช เทพมรณะ ซึ่งตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครหลัก ที่เรานั้นจะเห็นได้ในตอนเริ่มเรื่องไปจนถึงตอนจบ ในภาคศึกอรัญคา ก็อย่างที่บอกไป ว่าตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครหลัก และยังเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังของความวุ่นวายทั้งหมด ซึ่งเขาคนนี้นั้นหวังที่จะครอบครอง โฮเงียคุ ลูกแก้วเพิ่มพลัง ที่ อุราฮาระ นั้นได้แอบฝังเอาไว้ในตัว คุจิกิ ลูเคีย แม้ตอนเริ่มเรื่องบุคลิกของเขาจะเป็นคนดี แต่ในภาคการทำศึกของยมทูตนั้นเนื้อเรื่องได้มีการหักมุมแบบที่คาดไม่ถึง การ์ตูนออนไลน์ […]

คุโรซากิ อิจิโกะ คือพระเอกในเรื่อง บลีช เทพมรณะ เป็นตัวละครในการ์ตูนที่เงียบหายมานาน ซึ่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้เอกที่จะได้รับงานนำมาทำในภาคต่อ ที่มีผู้คนรอคอยอยู่กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งตัวละครในกาตูนตัวนี้นั้นมีบุคคลิกก็คือ เป็นคนห้าวๆ ไม่ค่อยคิดอะไร รักเพื่อนพ้องมากที่สุด ซึ่งจุดเด่นของเขาก็อยู่ที่สีผม ที่มีสีส้ม และดาบในขั้นชิไค ที่มีรูปร่างใหญ่โต และบทความนี้เราจะพาคุณไปเรียนรู้กับไทม์ไลน์ต้องแต่เริ่มเรื่องจนถึงภาค อรัญคาเลยครับ การ์ตูนออนไลน์ พระเอกที่ชื่อว่า คุโรซากิ อิจิโกะ ได้รับพลังมาจากยมทูตที่ชื่อลูเคีย เพราะเขาอยากได้รับพลังเพื่อช่วยน้องสาวที่ถูกจับโดย ฮอลโลว์ […]

เรียกว่าเป็นการฉลองวันชาติตามธรรมเนียมของการ์ตูนทอมกับเจอร์รี่ได้เลยทีเดียว สำหรับตอนที่ชื่อว่า เซฟตี้เซคั่น ที่เกี่ยวข้องกับเจอร์รี่ที่บังเอิญต้องดูแลเจ้าหนูน้อยนิบเบิ้ลที่บังเอิญเห็นว่ามันคือวันชาติของประเทศสหรัฐอเมริกาจนทำให้หนูน้อยต้องการเล่นพลุไฟ ก่อนที่เรื่องวุ่นวายเกี่ยวกับพลุจะไปเดือดร้อนยังเจ้าแมวอย่างทอมจนกระทั่งทั้งสองต้องสู้กันด้วยพลุไฟจนแทบจะเป็นสงครามเลยทีเดียว จุดเริ่มต้นในทอมกับเจอร์รี่ตอน เซฟตี้เซคั่น นั้น ก็เริ่มจากเช้าของวันที่ 4 กรกฎาคม ที่เจอร์รี่กับนิบเบิ้ลตื่นขึ้นมาพร้อมเตรียมฉลองวันชาติด้วยพลุไฟทันที แต่ทว่าเจ้าหนูน้อยกลับโดนห้ามไว้เพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวเอง แม้ว่าทางเจ้าหนูรุ่นพี่จะพยายามเอาแตรมาให้เป่าแทน แต่ทว่าทางนิบเบิ้ลกลับเอาพลุมาจุดเล่นจนกระทั่งระเบิดใส่เจอร์รี่เลยทีเดียว ก่อนที่หนูรุ่นพี่จะทำการยึดพลุทั้งหมดทันที                เมื่อทางนิบเบิ้ลถูกลงโทษแล้วนั้น ทอมกับเจอร์รี่ก็ได้มาเจอกันขณะที่เจ้าหนูกำลังพักผ่อน ก่อนที่จะเริ่มเอาพลุมาจุดแกล้งกันทันที ก่อนกระทั่งหนูหลบเข้าไปในรูแล้วทอมได้พยายามขุดจนทางนิบเบิ้ลต้องมาช่วยด้วยการจุดพลุใส่รูเพื่อเจ้ารุ่นพี่เอาไว้ ต่อมาหลังจากที่เจอรรี่ได้หนีเขาไปในถังไม้ที่ทอมอุดรูเอาไว้แล้วจะโดนเล่นงานนั้น เจ้าหนูน้อยก็ยังแอบเอากาวมาติดมือเพื่อหลอกให้ทอมใช้จนระเบิดใส่ตัวเลยทีเดียว                ต่อมาที่ทางทอมเลิกไล่ตามเจอร์รี่แล้ว […]

แม้ว่าทางทอมแอนด์เจอร์รี่มักจะมีเรื่องราวให้ตีกันอยู่เป็นประจำนั้น แต่ทว่าในตอนหนึ่งพวกเขากลับเลือกที่จะไม่ทำร้ายแต่ไปอ่านเรื่องราวของเจ้าหนูบ้านแทน อย่างในตอนที่ชื่อว่า เจอร์รี่ไดอารี่ นั้นจะมีการเล่าเรื่องผ่านทอมที่ได้อ่านบันทึกประจำวันของเจ้าหนูคู่ปรับพร้อมกับมีการระลึกภาพความหลังในตอนเก่าๆ โดยทางทอมนั้นได้มีไอเดียจะไม่ทำร้ายเพราะได้ยินคำประกาศจากวิทยุว่าเป็นสัปดาห์ที่ทุกคนต้องใจดีกับสัตว์อื่นนั่นเอง                ในตอน เจอร์รี่ไดอารี่ นั้นก็เริ่มต้นอยู่ภาพเดิมๆ ที่แฟนการืตูนคงจำกันได้คือการที่ทอมวางแฟนจะเล่นงานเจอร์รี่อีกครั้ง แต่ดันมีการประกาศจากวิทยุเสียก่อนว่าเป็นสัปดาห์ที่ต้องไม่ทำร้ายสัตว์ จนทำให้ทอมตัดสินใจจะไม่ทำอะไรดีเลยก่อนที่จะเอาของขวัญมาให้เจอร์รี่อีกด้วย แต่ทว่าเจ้าตัวกลับไม่อยู่บ้านและเหลือทิ้งไว้เพียงบันทึกภาพความหลังของเจ้าตัว ซึ่งทางทอมก็ตัดสินใจหยิบมาอ่าน                สิ่งที่เขียนไว้ในไดอารี่ของเจอร์รี่ก็คือเหตุการณ์อย่างในตอนที่ชื่อว่าทีฟอร์ทูที่เขาไปตีกอล์โดยใช้เจ้าหนูบ้านเป็นที่วางลูก ก่อนที่เจ้าแมวจะอ่านไปจนถึงตอนที่เขาโดนเอาคืนเสียเองและเริ่มจะโกรธขึ้นมาจนเปลี่ยนมาอ่านวันอื่นแทน ซึ่งบทต่อมาก็คือเหตุการณ์ในตอนเมาส์โทรเบิลที่ทอมได้อ่านหนังสือและหวงไม่ให้เจ้าหนูอ่านด้วยเพื่อจะล่อจับนั่นเอง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็โดนเอาคืนด้วยการตีตาแทน เจอร์รี่ไดอารี่ นั้นจะมีการเล่าเรื่องผ่านทอมที่ได้อ่านบันทึกประจำวัน                หลังจากที่ทางทอมอ่านไดอารี่ต่อไปจนเจอกับเหตุการณ์ในตอนที่ชื่อแยงกี้ดูเดิ้ลเมาส์ที่ตัวเขาได้ทำสงครามพลุกับทางเจอร์รี่ จนสุดท้ายตัวเองจะโดนระเบิดไปแทน […]

ย้อนไปในปี 1942 นั้นก็มีการ์ตูนอีกตอนหนึ่งที่น่าจดจำสำหรับทางบักส์บันนี่ โดยตอนที่ชื่อว่า แวกกี้แวบบิท นั้นถือว่าเป็นอีกครั้งที่ทางเอลเมอร์ ฟัดด์จะได้มาเจอกับคู่ปรับตัวแสบอีกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์จะเกี่ยวข้องกับการค้นหาทองที่นิยมกันอยู่ช่วงหนึ่งของประเทศในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ก่อนที่ทุกอย่างไปจบลงด้วยการทำอย่างไรก็ได้ให้ทางเอลเมอร์นี้ต้องมีทองกลับไปให้ได้                จุดเริ่มต้นของเรื่องราว แวกกี้แวบบิท ก็มาจากทางเอลเมอร์ ฟัดด์ที่กำลังเดินร้องเพลงโอ้ซูซานน่าอย่างสบายใจและออกมาค้นหาทองท่ามกลางทะเลทราย จนกระทั่งมาเจอกับบักส์บันนี่กระต่ายตัวแสบที่เดินมาร้องเพลงด้วยกันก่อนที่จะรีบหนีไปเมื่อโดนจับได้ จนกระทั่งทางเอลเมอร์ได้เดินทางไปขุดหาทองต่อไปแต่ดันเลือกที่จะไประเบิดหลุมที่มีทางกระต่ายตัวนี้อยู่ จนทำให้ทั้งสองต้องแย่งกันปาระเบิดออกไปจากที่ตัวเอง                เมื่อสุดท้ายทางบักส์บันนี่จะหลอกให้ทางเอลเมอร์ ฟัดด์ตกใจเล่นจากการเอาระเบิดปลอมมาหลอกจนเสียหน้าไปแถมยังเอาหม้อมาตีใส่หัวซ้ำไปอีก จนกระทั่งมาหลอกเขาซ้ำอีกครั้งด้วยการบอกว่าเจอทองแล้ว ซึ่งเป็นฟันทองของกระต่ายนั่นเองและทางเอลเมอร์ก็ไม่ได้สนใจเพราะตัวเองก็มีเช่นเดียวกัน ก่อนที่ต่อมาเอลเมอร์จะพยายามเอาคืนด้วยการหลอกให้บักส์ขึ้นมาพร้อมจะเอาจอบมาตีใส่แต่อุปกรณ์ดันไปติดหินด้านหลังเสียแทน จุดเริ่มต้นของเรื่องราว แวกกี้แวบบิท […]

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ในการ์ตูนเรื่องบักส์บันนี่ที่งานเข้าก็ว่าได้ สำหรับตอนที่ชื่อว่าบูลลี่ฟอร์บักส์ที่ทางพระเอกได้หลงทางจากเดิมที่จะไปเที่ยว จนกระทั่งไปเจอกับ มาธาดอร์ และต้องสวมบทบาทนั้นแทน พร้อมต้องสู้กับวัวกระทิงเจ้าถิ่นที่ไม่ยอมลดราง่ายๆ ซึ่งทางกระต่ายตัวแสบจะต้องหาทางเอาชนะไปพร้อมกับฉากจบที่นักวิจารณ์หลายคนมองว่าสร้างสรรค์ที่สุดเท่าที่เคยชมมาด้วยเช่นกัน                เหตุการณ์ในเรื่องบูลลี่ฟอร์บักส์นั้นได้เริ่มต้นขึ้นที่ประเทศสเปน ซึ่งมีทาง มาธาดอร์ กำลังจะต้องประจันหน้ากับวัวกระทิงที่ชื่อว่าโตโร่ ก่อนที่ต่อมาทางบักส์บันนี่จะขุดดินเข้ามายังสนามโดยไม่ตั้งใจเนื่องจากเขาลืมที่จะเลี้ยวซ้ายขณะที่อยู่ในเมืองอัลบูกีกี  จนกระทั่งเขารีบวิ่งไปถามกับชายที่อยู่สนามแต่ทว่ากลับไม่มีคำตอบจากคนหนีตายที่ปล่อยให้เขาอยู่กับโตโร่เพียงลำพังจนโดนขวิดจนลอยข้ามสนามไป                เมื่อทางบักส์บันนี่ได้ตัดสินใจว่า การโดนเล่นงานครั้งจะทำให้เขาคิดสร้างสงครามกับโตโร่อย่างเป็นทางการ เจ้าตัวจึงกลับมาอีกครั้งในฐานะมาธาดอร์ก่อนที่หลอกให้วัววิ่งไปชนทั่งเหล็กจนได้รับเสียงเชียร์จากคนดู อีกทั้งยังหลอกให้วัวเต้นทางต่างๆ และวิ่งไปขวิดกับไม้ไปเสียเอง แม้ว่าการตอกเขาของวัวกับไม้และการใช้หนังยางและเอาหินดีดใส่จะทำให้บักส์เอาชนะไม่ได้ก็ตาม มาธาดอร์ กำลังจะต้องประจันหน้ากับวัวกระทิงที่ชื่อว่าโตโร่                ในตอนสุดท้ายนั้น […]

อย่างที่คนที่ชอบดูการ์ตูนรู้กันว่า บักส์บันนี่ มักจะเป็นกระต่ายตัวแสบที่ต้องต่อกรกับตัวร้ายมากมายที่ต้องการจะมาเล่นงานเขา ไม่ว่าจะเป็นเอลเมอร์ ฟัจด์หรือทางโจรสลัดหนวดแดงอย่างโยเซไมท์ แซม แต่ทว่าในเรื่องกระต่ายที่หายไปนั้นเป็นทีของนักมายากลที่ชื่อว่าอะลา บาม่าที่บังเอิญมาติดป้ายโฆษณาของงานแสดงตัวเอง จนกระทั่งไปปิดรูบนต้นไม้ของกระต่ายตัวแสบนี้และเกิดเป็นเรื่องวุ่นวายขึ้นมา                ทันทีที่ บักส์บันนี่ ถูกนักมายากลเล่นงานด้วยการเอาพายแบลคเบอร์รี่ฟาดหน้าขณะที่อยู่ในบ้านของตัวเองจนเจ้ากระต่ายขอประกาศสงครามกับบลาม่า ก่อนจะแอบไปงานแสดงมายากลของเขาและเริ่มทำการเอาคืนด้วยการไปซ่อนตัวในหมวกเพื่อหลอกให้บาม่าหยิบตัวแครอทขึ้นมาแทนกระต่าย รวมทั้งโชว์ดึงตัวเองขึ้นมาจากหมวกจนทางตัวร้ายจนไม่ไหวเอาไม้มาตอกปิดหมวกเอาซะเลย                จากนั้นไม่นานทางบักส์บันนี่ก็เปลี่ยนแผนไปปลอมตัวเป็นเด็กเพื่อหลอกให้อะลาห์ บาม่านำไปร่วมแสดงในมายากลแทงดาบในไห ก่อนที่จะปล่อยให้นักมายากลคนนี้แทงไหเปล่าๆ เพราะเจ้ากระต่ายแอบหนีออกก่อนแล้วจนทำให้บาม่าดูโง่เง่าบนเวที จนสุดท้ายจะเป็นตัวร้ายที่ทนไม่ไหวหาปืนมายิงใส่กระต่ายตัวนี้ แต่เขากลับโดนเอาซิก้าไส้ระเบิดมายัดปากแล้วจุดเอาคืนพร้อมฟาดพายแบล็คเบอร์รี่ใส่เป็นการแก้แค้นอย่างสาสม                แม้ว่าการ์ตูนส่วนใหญ่จะเหมาะสำหรับเด็กก็ตาม แต่สำหรับบักส์บันนี่ตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องสำหรับครอบครัวมากนัก […]