การ์ตูน

เป็นอีกตอนที่การ์ตูนป๊อปอายดูจะเสียเปรียบอย่างมาก จากเรื่องที่ชื่อว่าพาร์เลซ วัส วูหรือเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับรายการโทรทัศน์ที่ชื่อว่าดิอินเตอร์เนชั่นแนลจนทำให้ทาง โอลีฟ หลงรักอย่างมากและเลือกที่จะลืมพระเอกไปอย่างน่าเศร้า แต่ในขณะเดียวกันนั้นทางบลูโตที่แอบคอยดูทางหน้าต่างก็รับรู้เรื่องนี้จนคิดที่จะปลอมตัวมาเป็นชายงามที่แสนจะมีเสน่ห์จนทางป็อปอายต้องพยายามทวงคืนคนรักอีกครั้ง                ในช่วงต้นเรื่องนั้นก็เริ่มมาจากป๊อปอายที่กำลังรอ โอลีฟ ดูรายการที่ชื่อดิอินเตอร์เนชั่นนัลให้จบก่อนจะไปเดทกัน ซึ่งในรายการนั้นจะเป็นผู้ชายจากฝรั่งเศสที่คอยหยอดคำหวานให้ผู้ชมสาวๆ ได้หลงใหลกันและมีโอกาไปเยี่ยมผู้ชมถึงบ้านด้วย จนกระทั่งทางนางเอกตัดสินใจที่จะไม่ไปเที่ยวกับทางกะลาสีเรือคนนี้และเลือกที่จะไปกับทางชายหนุ่มฝรั่งเศสจะดีกว่า โดยทางบลูโตที่มาได้ยินเรื่องนี้เข้านั้นก็เลือกที่จะเปลี่ยนโฉมตัวเองเป็นชายงามคนนั้นอีกด้วย                หลังจากที่บลูโตที่ปลอมตัวมาและทักทายโอลีฟจนเธออ่อนไหวนั้น ทางป็อปอายก็พยายามทวงคนรักคืนแต่ทว่ากลับไม่ได้รับความสนใจอีกเลย แม้ว่าจะพยายามจุมพิตที่มือหรือการพูดคุยกันโดยตรงก็ตาม หลังจากที่ทางบลูโตได้เต้นรำกับเธอแล้วนั้น ทั้งสองก็จะออกไปเดทกันจนกระทั่งมีการตัดสินกันด้วยการดวลดาบ ก่อนที่ทางดิอินเตอร์เนชั่นนัลจะแทงเข้าไปที่ตัวของป็อปอายจนผักโขมหกออกมา โอลีฟ ดูรายการที่ชื่อดิอินเตอร์เนชั่นนัลให้จบก่อนจะไปเดทกัน                […]

ในการ์ตูนล้อเลียนของป๊อปอายที่เคยออกฉายในยุคหนึ่งไม่ว่าจะเป็นการเจอกับซินแบดหรือเป็นอัลลาดินก็ตาม แต่มีอยู่อีกตอนหนึ่งที่ทางพระเอกได้กลายเป็นชายผู้น่าสงสารก่อนที่จะมีโอกาสได้แปลงร่างเป็น ซินเดอร์เรลล่า ที่จะไปพบกับเจ้าหญิงอย่างโอลีฟ ออยพร้อมกับเจอบลูโตที่รับบทบาทเป็นเจ้าชายคู่แข่งอีกคนหนึ่ง อีกทั้งยังมีการประลองฝีมือมากมายเพื่อคว้าหัวใจของเจ้าหญิงไปครอง                จากตอนที่ชื่อว่าเอเชียนฟิสตอรี่ที่ออกฉายในปี 1953 นั้น ก็เริ่มต้นขึ้นจากทางป๊อปอายที่รับบทเป็นคนใช้ในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่รับบทบาทโดยบลูโต ที่กำลังจะเดินไปทางปราสาทของเจ้าหญิงที่เธอกำลังจะเลือกคู่ครองจากงานเลี้ยงในค่ำคืนนั้นด้วย  จนกระทั่งทางหนุ่มรับใช้ได้แต่น้อยเนื้อต่ำใจว่าต้องการจะไปงานเลี้ยงเช่นกัน ก่อนที่จะมีชายวิเศษปรากฎตัวขึ้นมาพร้อมกับเสกรถสุดหรูจากกระป๋องผักโขมขึ้นมา                หลังจากที่ทางป๊อปอายมีทั้งรถและการแต่งตัวใหม่แล้วนั้นก็ต้องสัญญากับชายวิเศษว่าจะต้องกลับมาก่อนเที่ยงคืนเท่านั้น เมื่อไปถึงงานเลี้ยงแล้วนั้นทางบลูโตก็รีบเสนอตัวเข้าหาเจ้าหญิงโอลีฟทันที ก่อนที่ทางพระเอกอย่าง ซินเดรอ์เรลล่า จะเดินเข้ามาในงานจนทำให้เจ้าหญิงตกหลุมรักทันที จนกระทั่งชายทั้งสองจะต้องแข่งขันกันด้วยการยิงธนูที่ทางบลูโตโกงเล็กน้อย แต่เป็นทางพระเอกที่ยิงชนะไป ซินเดรอ์เรลล่า จะเดินเข้ามาในงานจนทำให้เจ้าหญิงตกหลุมรักทันที                […]

แม้ว่าเรื่องราวปกติของการ์ตูนเรื่องทอมแอนด์ เจอร์รี่ นั้น แมวมักจะไล่ตามจับเจ้าหนูบ้านตัวนี้อยู่เสมอ จนกระทั่งในตอนที่ชื่อว่ามิสซิ่งเมาส์นั้นกลับมีเหตุการณ์ให้แมวตัวแสบต้องกลัวสุดขีดจนทำให้ต้องหนีเอาตัวรอด เนื่องจากข่าวลือว่ามีเจ้าหนูขาวซึ่งหลุดมาจากห้องทดลองเพื่อทำอาวุธและอาจจะระเบิดได้ทันทีเพื่อโดนกระทบกระเทือน ซึ่งทางเจ้าหนูบ้านตัวนี้ได้ยินเข้าจึงเลือกจะเอาคืนทอมด้วยวิธีการปลอมตัวนั่นเอง                จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ในเรื่องนั้นมาจาก เจอร์รี่ ที่กำลังแอบขโมยของกินมาจากตู้เย็นจนทางทอมมาแอบดูและแกล้งด้วยการบีบส้มใส่ ก่อนที่จะเอาพายฟาดหน้าและเอาที่ดักหนูตามดีดหางจนวิ่งไปชนกำแพงหน้าห้องตัวเอง ก่อนที่สีขาวจะตกจนเลอะไปทั้งตัว หลังจากนั้นเองที่มีการประกาศออกมาว่า มีเจ้าหนูตัวขาวหลุดออกมาจากห้องทดลองและมักยภาพมากพอจะระเบิดเมืองได้อีกด้วย                สิ่งที่ทางทอมจะต้องระวังก็คืออย่าไปพบเจอและสัมผัสจนระเบิดนั่นเอง แต่เมื่อทางเจอร์รี่ได้ยินเช่นนั้นแล้วจึงได้ทำการเอาคืนทันทีอย่างเช่น การเดินไปให้แมวที่กินวอลนัทอยู่เอาค้อนตอกหัวของเขา การพยายามจะโดดจากที่สูงลงมาและการเอาเปียโนปิดใส่ตัวจนทอมต้องเอาหัวของตัวเองมารับกรรมแทน  ซึ่งจากเหตุการณ์เหล่านี้ก็ทำให้ทอมไม่สามารถแจ้งข้อมูลถึงเจ้าหน้าที่ในห้องทดลองได้เลย เจอร์รี่ ที่กำลังแอบขโมยของกินมาจากตู้เย็น                แต่ทว่ายังจากที่เจอร์รี่พยายามแกล้งทอมอยู่นานนั้น […]

ถือว่าเป็นการ์ตูนอีกตอนหนึ่งที่ทาง ทอม กับเจอร์รี่ได้มีโอกาสออกไปพักร้อนนอกเหนือจากเดิมที่มักจะอยู่แต่ในบ้านกัน ซึ่งเรื่องราวในตอนที่ชื่อว่าเนโปลิแทนเมาส์นั้น ทั้งสองแมวกับหนูตัวแสบจะมีเรื่องราวกันตั้งแต่อยู่บนเรือสำราญ ก่อนที่จะมีโอกาสเจอไปหนูเจ้าถิ่นอย่างโตโป้และทำให้ทั้งสามต้องเปลี่ยนมาช่วยเหลือกันแทน เพื่อให้ทางเพื่อนต่างชาติเอาตัวรอดไปจากกลุ่มสุนัขให้ได้                เริ่มต้นเรื่องมานั้นทาง ทอม กับเจอร์รี่ก็ได้พักผ่อนอยู่ในเรือสำราญที่ใกล้จะเทียบชายฝั่งเมืองนาโปลีประเทศอิตาลี ก่อนที่ทั้งสองจะสู้กันตามเคยจากการเปิดประตูชนกัน ก่อนที่จะไล่กันมาถึงพื้นดินด้านล่างจนเข้าไปยังโซนตลาดและชุมชนของเมือง จนกระทั่งเสียงข้าวของทำให้หนูเจ้าถิ่นอย่างโตโป้ออกมาช่วยเหลือเจอร์รี่เอาไว้ แต่ทว่าหลังจากที่เจ้าแมวโดนจัดการไปแล้วนั้น กลับโดนสุนัขเจ้าถิ่นมาเล่นงานซ้ำอีกด้วย                หลังจากที่ทางโตโป้ได้เห็นทอมถูกแกล้งนั้น เจ้าหนูอิตาเลียนก็ทนไม่ไหวจึงเข้าไปช่วยเหลือและสามารถจัดการสุนัขตัวใหญ่ได้ด้วยตนเองเลยทีเดียว ก่อนที่ทางโตโป้นั้นจะสังเกตว่าทั้งสองคือตัวละครดังจากอเมริกาจึงทำได้ต้อนรับอย่างดี ทั้งพาหาอาหารและเที่ยวชมเมืองอีกด้วย จนกระทั่งทางกลุ่มสุนัขต้องการกลับมาเอาคืนอีกครั้ง ส่วนทั้งสามตัวก็ต้องไปเอาคืนด้วยการปล่อยเขียงจนสุนัขทั้งสามโดนเล่นงานจนตกทะเล ทอม กับเจอร์รี่ก็ได้พักผ่อนอยู่ในเรือสำราญที่ใกล้จะเทียบชายฝั่งเมืองนาโปลีประเทศอิตาลี […]

ย้อนไปในปี 1942 นั้นก็มีการ์ตูนอีกตอนหนึ่งที่น่าจดจำสำหรับทางบักส์บันนี่ โดยตอนที่ชื่อว่า แวกกี้แวบบิท นั้นถือว่าเป็นอีกครั้งที่ทางเอลเมอร์ ฟัดด์จะได้มาเจอกับคู่ปรับตัวแสบอีกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์จะเกี่ยวข้องกับการค้นหาทองที่นิยมกันอยู่ช่วงหนึ่งของประเทศในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ก่อนที่ทุกอย่างไปจบลงด้วยการทำอย่างไรก็ได้ให้ทางเอลเมอร์นี้ต้องมีทองกลับไปให้ได้                จุดเริ่มต้นของเรื่องราว แวกกี้แวบบิท ก็มาจากทางเอลเมอร์ ฟัดด์ที่กำลังเดินร้องเพลงโอ้ซูซานน่าอย่างสบายใจและออกมาค้นหาทองท่ามกลางทะเลทราย จนกระทั่งมาเจอกับบักส์บันนี่กระต่ายตัวแสบที่เดินมาร้องเพลงด้วยกันก่อนที่จะรีบหนีไปเมื่อโดนจับได้ จนกระทั่งทางเอลเมอร์ได้เดินทางไปขุดหาทองต่อไปแต่ดันเลือกที่จะไประเบิดหลุมที่มีทางกระต่ายตัวนี้อยู่ จนทำให้ทั้งสองต้องแย่งกันปาระเบิดออกไปจากที่ตัวเอง                เมื่อสุดท้ายทางบักส์บันนี่จะหลอกให้ทางเอลเมอร์ ฟัดด์ตกใจเล่นจากการเอาระเบิดปลอมมาหลอกจนเสียหน้าไปแถมยังเอาหม้อมาตีใส่หัวซ้ำไปอีก จนกระทั่งมาหลอกเขาซ้ำอีกครั้งด้วยการบอกว่าเจอทองแล้ว ซึ่งเป็นฟันทองของกระต่ายนั่นเองและทางเอลเมอร์ก็ไม่ได้สนใจเพราะตัวเองก็มีเช่นเดียวกัน ก่อนที่ต่อมาเอลเมอร์จะพยายามเอาคืนด้วยการหลอกให้บักส์ขึ้นมาพร้อมจะเอาจอบมาตีใส่แต่อุปกรณ์ดันไปติดหินด้านหลังเสียแทน จุดเริ่มต้นของเรื่องราว แวกกี้แวบบิท […]

คงไม่มีใครไม่รู้จัก วันโกหก ตามวัฒนธรรมของชาวสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางการ์ตูนอย่างเรื่องป็อปอายก็ไม่พลาดที่จะจำการ์ตูนเรื่องนี้มาสร้างเรื่องราวเช่นกัน โดยเหตุการณ์ในวันนี้จะทำให้พระเอกของเรื่องนั้นต้องเสียเปรียบกับบลูโตอย่างหนัก อีกทั้งทางโอลีฟ ออยแฟนสาวที่ดันเห็นเป็นเรื่องตลกขบขันจนทำให้ทางป็อปอายจะต้องเอาชนะคู่แข่งไปให้ได้ ซึ่งการใช้ผักโขมอาจไม่พอ                ในตอนที่ชื่อคุกกี้งวิธแกกส์นั้น ก็เริ่มต้นจากการที่ทางโอลีฟเตรียมตัวไปปิคนิคกับทางป็อปอายและบลูโตอีกคนหนึ่ง จนทางพระเอกเอาของขวัญมาฝากแฟนสาว ส่วนทางตัวร้ายนั้นก็เอากล่องซิกก้ามาฝากด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะเปิดออกมาเป็นหมัดตรงที่ต่อยให้ป็อปอายจนหน้าหงายและเปิดเผยว่านี่คือวันที่ 1 เมษายนหรือว่า วันโกหก นั่นเอง จนทางพระเอกไม่ถือสาอะไรเพราะเป็นการละเล่นแบบหนึ่งนั่นเอง                ต่อมาระหว่างทางที่พวกเขาไปทำกิจกรรมในวันโกหกนั้น ทางตัวร้ายก็ได้แอบเป่าลูกโป่งใส่จนทางป็อปอายคิดว่ารถยนต์ยางแตกและโดนแกล้งซ้ำจากการพ่นท่อไอเสียใส่หน้าอีกด้วย เมื่อไปถึงที่ปิคนิคกันแล้วนั้น ทางป็อปอายก็โดนแกล้งอีกด้วยการเอาสปริงใส่ขวานจนตีหน้าของเขาให้ทิ่มดินเลยทีเดียว แต่ทว่าทางโอลีฟก็ยังเข้าข้างพอ่หนวดยาวอยู่เช่นเคย […]

แม้ว่าการล้อเลียนการ์ตูนของแต่ละเรื่องมักจะเกิดขึ้นเป็นประจำก็ตาม แต่ทว่าในปี 1939 นั้นทางป็อปอายก็ได้มีตอนที่ชื่อว่า อัลลาดิน กับตะเกียงวิเศษ ซึ่งบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเป็นการเลียนแบบนิยายชื่อดังนั่นเอง โดยมีเรื่องราวที่ใกล้เคียงกันอย่างมากเพราะทางพระเอกต้องไปตามหาตะเกียงวิเศษให้ได้ แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยมากขึ้นและไม่มีตัวโกงขาประจำอย่างบลูโตก็ตาม                จุดเริ่มต้นของตอนนี้นั้นก็เกิดจากโอลีฟ ออยที่กำลังทำงานเป็นนักเขียนนิยายในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง พร้อมกับเขียนเรื่องราวดัดแปลงให้ทางป็อปอายรับบทบาทเป็น อัลลาดิน ส่วนตัวเธอก็รับบทเป็นเจ้าหญิงในเมือง จนมีภาพของพระเอกที่ทำงานเป็นช่างตีเหล็กแลพมีทางขุนนางผู้ชั่วร้ายคนหนึ่งแอบมองเจ้าหญิงและต้องการจะเป็นผู้มีอำนาจและจับโอลีฟมาเป็นภรรยาของตัวเองอีกด้วย                ซึ่งการที่ขุนนางนี้จะครอบครองเมื่อได้นั้นจะต้องไปตามหาตะเกียงวิเศษเสียก่อน จนต้องไปตามหาป็อปอายอัลลาดินเพื่อไปเอาตะเกียงนั้นให้ได้  เมื่อทางพระเอกและขุนนางไปถึงถ้ำแห่งหนึ่งแล้วนั้นก็ได้พบกับทางเดินด้านล่างที่เต็มไปด้วยขุมทรัพย์มากมาย ก่อนจะต้องพังกำแพงด้านในเพื่อไปหยิบเอาตะเกียงวิเศษมา แม้ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะมอบตะเกียงก่อนจะถูกผักหลังและทิ้งไว้ในถ้ำลำพัง แต่ทว่าตะเกียงกลับตกลงไปกับพระเอกเสียอย่างนั้น อัลลาดิน ส่วนตัวเธอก็รับบทเป็นเจ้าหญิงในเมือง […]

จะว่าเป็นการ์ตูนตอนรวมฮิตก็ว่าได้สำหรับป็อปอายตอนแอสสอลต์แอนด์แฟลตเตอร์รี่ ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับพระเอกที่ถูกฟ้องโดย บลูโต เนื่องจากเขามักจะโดนเล่นงานในชีวิตประจำวันอยู่เสมอจนทนไม่ไหวและเลือกที่จะมาฟ้องต่อศาลที่มีผู้พิพากษาเป็นวิมปี้ที่แฟนๆ รู้จักกันดีนั่นเอง ส่วนในตอนนั้นก็จะมีการแทรกเหตุการณ์ในตอนอื่นๆ เข้ามาเพื่อให้แฟนการ์ตูนยังจำกันได้อีกด้วย                 เรื่องราวเริ่มต้นจากป็อปอายกับ บลูโต ที่อยู่ด้วยกันในศาล ก่อนที่จะมีการเปิดการไต่สวนโดยผู้พิพากษาอย่างวิมปี้ จนทางโจทก์ตัวร้ายได้กล่าวหาว่าทางกะลาสีเพื่อนร่วมอาชีพอีกคนได้ทำร้ายเขาอยู่บ่อยครั้งจนโดนต้องสงสัยในข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยเหตุการณ์แรกที่ยกเข้ามาในเรื่องนั้นคือช่วงท้ายของตอนที่มีชื่อว่าเดอะฟาร์มเมอร์แอนด์เดอะเบลในช่วงที่พระเอกพยายามมาช่วยโอลีฟอยู่นั่นเอง                ส่วนเหตุการณ์ต่อมาที่ทางโจทก์ยังพยายามกล่าวป็อปอายก็คือ ตอนที่ชื่อว่าฮาวกรีนอิสสปิแนชที่ทางพระเอกได้จัดการตัวร้ายแสนแสบคนนี้อัดเข้ากับกำแพงก่อนที่นาฬิกาจะตกลงมาใส่หัวให้เป็นภาพจำของแฟนๆ ในเวลาต่อมา จนกระทั่งทางจำเลยนั้นได้มีโอกาสพูดถึงเรื่องของตัวเองก่นอที่จะมีการตัดสินคดี ซึ่งเขาได้เล่าถึงเหตุการณ์ในเรื่องบาล์มมี่ สวาร์มมี่ โดยเป็นตอนที่ตัวร้ายได้สวมบทบาทเป็นนักมายากลที่พยายามขโมยโอลีฟมา  เรื่องราวเริ่มต้นจากป็อปอายกับ บลูโต ที่อยู่ด้วยกันในศาล […]

ทอมแอนด์เจอร์รี่ เป็นเรื่องที่ดูกันมาแต่เด็กแล้ว ไม่มีการแสดงออกมาเป็นคำพูด มีแต่แสดงร่างกายออกมาให้ทุกคนเห็น ซึ่งเป็นการที่มีแมวกับหนูทั้งสองตัวนี้ ไม่ถูกกันสักนิดเดียวค่ะ พยายามที่จะฆ่ากันกลั่นแกล้งกันอยู่เสมอนั่นเอง จนทำให้มีการสร้างตอนที่หลากหลาย ที่เด็กๆก็อาจจะชอบและรู้สึกว่ามันถูกใจมากค่ะ ตัวละคร ทอมแอนด์เจอร์รี่ ที่น่าสนใจ ในส่วนของตัวละครนั้น ที่น่าสนใจก็จะมีทั้งหนูที่คอยเป็นคู่กัดของแมว และแมวก็คอยที่จะกลั่นแกล้งอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้หนูนั้นมันตายไปนั่นเอง ซึ่งสองตัวนี้เป็นตัวละครที่หลักๆเลย สามารถที่จะนำพาเรื่องเหล่านี้ไปสู่การดำเนินเรื่องได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน จนทำให้เรื่องนี้ยังไม่หายไปในนะคะ ทอมแอนด์เจอร์รี่ความสนุกที่ครบครันทุกฉาก ไม่ว่าจะเป็นฉากไหนๆ เพื่อนๆที่เคยดูมาแล้ว แต่ละฉากที่แสดงออกมาเลย และเหมือนกันนั่นก็คือความกลั่นแกล้งกัน ซี่งมีความลุ้นอยู่ในตัวว่าหนูจะตายไหม […]